JustPaste.it

Title: BOUNCE

 

Pairing: Park Chan Yeol X Kim Jong In
By : ข. (@KaLuaRz)

 

NOTE:
กติกา #1เพลง1คู่ #จบหนึ่งเรื่อง

1. รับโจทย์ โจทย์จะกำหนดให้แต่งฟิคสั้นๆ ประมาณ 100-300 คำ ด้วยตัวละครหรือคู่ที่กำหนด และให้แต่งจากเพลงที่กำหนด
2. แต่งฟิคตามโจทย์ แล้วโพสต์ลง twitlonger.com หรือบล็อกส่วนตัวโดยโพสต์กติกานี้ไว้ด้านบนด้วย
3. แท็กคนอื่นต่อโดยกำหนดตัวละครหรือคู่ และเพลง ถ้าเป็นเพลงภาษาต่างประเทศ รบกวนแนบคำแปลมาให้ด้วยจะขอบคุณมากค่ะ เช่น JB x Jr. (GOT7) เพลง A Thousand Years (Christina Perri) https://www.youtube.com/watch?v=XBZUZAcon-M
4. ไม่บังคับรูปแบบความสัมพันธ์ position จะเขียนออกมาแบบไหนก็ได้ค่ะ โดยให้เพลงเป็นตัวกำหนด theme
5. ก่อนแท็กใคร กระซิบถามกันก่อนก็ดีนะคะว่าสะดวกไหม อยากให้เล่นกันด้วยความสมัครใจมากกว่า
6. ขอให้สนุกค่ะ ;)

 

 

BOBBY - BOUNCE
รับมาจากแมวเมะ @REI6023 จ้ะ

 

300 คำบ้าอะไร 1600 กว่าคำละเบ้บ

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

 

                มาพนันกันไหมล่ะ ว่าคุณไม่เคยเจอผู้ชายแบบเขาหรอก

 

 

 

 

 

                "ขอโทษนะคะ คุณคิมจงอินช่วยให้สัมภาษณ์กับพวกเราสักครู่"

 

                แสงแฟลชมากมายสาดรัวเข้ามาไม่ยั้ง คิมจงอิน ทำหน้าตาบอกบุญไม่รับกับเสียงผู้สื่อข่าวมากมายที่ดังลอดเข้ามาในรถคันหรูของตัวเอง

 

                "ผู้ชายที่อยู่ในคลิปที่กำลังโด่งดัง ในนั้นคือคุณคิมจงอินใช่ไหมคะ"

 

                "ช่วยแถลงการณ์ด้วยครับ"

 

                "คุณคิมจงอิน!"

 

                เจ้าของชื่อที่ดังระงมนอกรถเตะเข้าที่หลังเบาะของคนขับรถอย่างแรงจนต้องรีบบีบแตรไล่นักข่าวที่ขวางทาง

 

                "ออกรถสักที ไม่หลบก็ชนแม่งให้ตายห่าให้หมดไปเลย!"

 

 

 

 

 

 

 

                "ใจเย็นๆ ก็แล้วกันนะจงอิน แม่จะจัดการให้" จงอินตอบรับก่อนจะวางสายจากมารดาลง

 

                เสียงตามสายทำให้จงอินจิตใจสงบลง แม่ของเขาโทรมาหลังจากทราบเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น คิมจงอินเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้รับช่วงต่อกิจการคิมกรุ๊ปจากคุณแม่ยังสวยที่ปลดแอกตัวเองเมื่อปีกลาย เขากำลังมาแรงเพราะยืนหยัดนำคิมกรุ๊ปให้เดินหน้าอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงปี

 

                แต่ด้วยความดังเทียบเคียงไอดอลวัยรุ่นในปัจจุบันของเขาเนี่ยแหละ จงอินถึงได้ถูกสื่อทั้งวงการสังคม บันเทิงและธุรกิจเฝ้ารอวันที่ชายหนุ่มแสนเพอร์เฟคคนนี้จะก้าวพลาด

 

                และแน่นอนว่ามันเกิดขึ้นอีกแล้ว ก้าวพลาดของจงอิน

 

                "บอสคะ คุณปาร์คชานยอลมาขอเข้าพบค่ะ" เจ้าของผิวสีแทนเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร ได้ยินชื่อของผู้ที่เขาต้องการจะพบตัวพอดีมาหาเองถึงที่ขนาดนี้ริมฝีปากอิ่มก็ยกยิ้มเหี้ยม

 

                "ให้เข้ามา" กดอินเตอร์คอมตอบไปแบบนั้นแล้วก็เคลียร์เอกสารบนโต๊ะตัวเองลงในลิ้นชักเรียบร้อย พอดีกับที่เจ้าของร่างกายสูงใหญ่กับเรือนผมสีเงินเดินพ้นธรณีประตูเข้ามา

 

                "สวัสดีจง..."

 

                "ล็อคประตูห้องด้วยซิ" คนถูกสั่งทำตามอย่างว่าง่าย คิมจงอินลุกจากเก้าอี้หนังนั่งสบายของตัวเองไปยืนทิ้งสะโพกบนโต๊ะทำงานไม้สักตัวหรูของตัวเอง "แล้วเดินเข้ามาหาฉันตรงนี้"

 

                "ครับ" ปาร์คชานยอลเดินเข้าไปหาจงอินทั้งรอยยิ้มประดับเต็มใบหน้า ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะค้อมตัวเท้ามือกับโต๊ะทำงานกักจงอินไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง "ทำไมทำหน้า..."

 

                เพี๊ยะ!

 

                "เอาคลิปออกไปปล่อยทำไม" คิมจงอินถามหลังจากที่ฝ่ามือหนาปะทะไม่เบาไม่แรงบนใบหน้าของชายหนุ่มผู้มาเยือน อีกฝ่ายหันกลับมามองแสดงสีหน้าสงสัยระคนตกใจจนจงอินหลุดขำ "แค่ที่ได้ทุกวันนี้ยังไม่พออีกเหรอ ชานยอล"

 

                ชายหนุ่มผมเงินกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาสุกใสที่อาจจะดูไร้พิษสงในสายตาใครหลายๆ คนกำลังสั่นระริก

 

                จงอินรู้ว่าชานยอลกำลังสนุก

 

                "ความแตกซะแล้วเหรอเนี่ย"

 

                "มันก็มีแต่นายเท่านั้นแหละที่จะมีคลิปพวกนั้น" จงอินยกมือลูบไปตรงรอยปื้นแดงบนแก้มชานยอลที่เขาเป็นคนสร้างเองเมื่อครู่นี้ อีกฝ่ายยกมือหนาขึ้นมาลูบหลังมือจงอินอย่างแผ่วเบา

 

                แต่กลับสร้างความรู้สึกกระสันแปลกๆ ในกายจงอิน

 

                "แต่แม่คุณก็ไม่ได้เอะใจนี่" ชานยอลยิ้มกว้าง ก้มลงฉกฉวยริมฝีปากอิ่มของจงอินครั้งหนึ่ง "ท่านยังโทรมากำชับผมให้ดูแลคุณให้ดีอยู่เลย"

 

                พอจงอินไม่ตอบ ชานยอลก็ยกมือคลายปมเนคไทของจงอินให้หลวมออก

 

                "เอาอย่างนี้... ให้ผมไถ่โทษที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยเจอกับนักข่าวพวกนั้นแทนก็แล้วกัน ดีไหม?"

 

                "หึ" จงอินได้แต่แค่นเสียในลำคอ

               

                ชานยอลไม่ได้ต่อความหลังจากนั้นอีก ร่างสูงทำเพียงแค่มอบจูบแสนหอมหวานให้จงอินแทน

 

                แน่สิ ถ้าแม่ของจงอิน ระแคะระคาย อะไรขึ้นมา แม่คงไม่วิ่งเต้นปิดข่าวให้เขาแบบนี้หรอก

 

                อาจจะปลดเขาออกจากการเป็นลูกโทษฐานเอากับเด็กของแม่อย่างปาร์คชานยอลแทนก็เป็นได้

 

 

 

 

 

 

                "มีเวลาอีกเท่าไหร่" จงอินถามหลังจากที่พวกเขาเสร็จกิจกรรมบางอย่างบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของจงอิน มือหนาค่อยๆ ผูกเนคไทผ้าไหมคืนที่ให้จงอินช้าๆ  

 

                "อาจจะอีกซัก 1 หรือ 2 ชั่วโมง" ชานยอลเงยหน้าสบตาคนถามที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟารับรองแขกด้วยกัน เห็นร่องรอยสีกุหลาบที่เขาสร้างไว้ปรากฏอยู่ตรงสันกรามสวยของจงอินก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ "ผมมีนัดทานข้าวกับแม่คุณตอน 1 ทุ่ม"

 

                "เหรอ" จงอินตอบเสียงเนิบ พอชานยอลละมือออกจากเสื้อผ้าของเขา จงอินก็ป่ายแปะมือลงบนแผงอกหนาที่โชว์หราระหว่างสาบเสื้อเชิ้ตที่ถูกเขารั้งจนกระดุมหลุดไปหลายเม็ด "เตรียมเสื้อผ้าสำรองมาหรือเปล่า"

 

                "ที่นี่ก็มีไม่ใช่เหรอ" ชานยอลพูดติดตลก จงอินนึกหมั่นไส้ผู้ชายคนนี้นี้จริงๆ

 

                ชานยอลลุกจากไปเข้าห้องลับในห้องทำงานจงอินที่เปรียบเสมือนห้องพักผ่อนส่วนตัวเผื่อวันไหนที่จงอินนอนค้างที่บริษัท เสียงน้ำจากฝักบัวดังออกมาสม่ำเสมอทำให้จงอินนึกย้อนถึงเรื่องราวที่เกิดระหว่างเขากับชานยอล

 

                แม่ของจงอินเป็นสาวสังคมชั้นสูง เธอหม้ายมาหลายสิบปีนับตั้งแต่พ่อของจงอินเสียงชีวิตไป ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งต้องบริหารคิมกรุ๊ปมาเป็นเวลานาน เมื่อถึงเวลาที่จงอินพร้อมเธอก็พร้อมจะมอบทุกอย่างให้ลูกชายโดยไม่ลังเล

 

                เพราะเธอก็โหยหาความสุขที่เธอขาดมาเป็น 10 ปีแล้ว จงอินเข้าใจ

 

                ในวันหนึ่งแม่พาปาร์คชานยอลที่อายุน้อยกว่าเกือบ 2 รอบมาที่บ้านและบอกกับจงอินว่าผู้ชายคนนี้กำลังคบหาดูใจกับแม่อยู่

 

                ทีแรกจงอินมีท่าทีต่อต้านชานยอลมาก เพราะไม่ไว้วางใจว่าชานยอลจะรักแม่เขาจริงๆ อย่างที่เธอหลงไหลหรือเปล่า

 

                แต่เมื่อเขาได้รู้ว่าแม่ซื้อปาร์คชานยอลมาชุบเลี้ยงจากสังคมโฮสต์ เขาก็อดสงสารอีกฝ่ายไม่ได้

 

                เขาก็เลยสนองตอบชานยอลในวันที่อีกฝ่ายเข้ามาหาเขาเพราะเบื่อหน่ายกับการเอาอกเอาใจผู้หญิงสูงวัยกว่าคราวแม่อย่างแม่เขาเท่านั้นเอง

 

                "ผมไปก่อนนะ" ชานยอลเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังในความหล่อของเขา ผมสีขาวเซ็ทตั้งเปิดหน้าผาก ดวงตากลม คิ้วคม ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่งเป็นสันแต่งเติมเครื่องสำอางให้ใบหน้าผ่องขึ้นอีกระดับ

 

                จงอินไม่แปลกใจหรอกที่แม่จะหวงชานยอลขนาดยอมเสียเงินก้อนซื้อกลับมาดูเล่นที่บ้าน

 

                "เดินทางดีๆ" จงอินพูดหลังจากที่ชานยอลผละริมฝีปากออกไป กู๊ดบายคิสครั้งนี้ดูดดื่มเสมอสไตล์ชานยอล ชายผมเงินยิ้มกริ่มส่งให้จงอิน

 

                "คืนนี้ผมจะไปหาที่คอนโด..."

 

                "จะสายแล้วนะชานยอล" มือสีน้ำผึ้งยกขึ้นดันอกอีกคนเอาไว้ให้ผละออกไป เห็นแววไม่พอใจฉายบนดวงตากลมของชานยอลครู่เดียวจงอินก็ฉกจมูกลงข้างแก้มสาก เผยรอยยิ้มบางเบาที่ชานยอลบอกว่าชอบนักชอบหนา "ฉันจะรอ ทำเวลาเข้าล่ะ"

 

                ชานยอลจากไปแล้วแต่จงอินยังนั่งอยู่ที่เดิม ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ยามอาทิตย์อัสดงค์แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ

               

                ความลุ่มหลงของพวกเขาทั้งคู่หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ นับจากวันนั้น

 

                จงอินรู้เรื่องที่ชานยอลอัดคลิปเอาไว้ ชานยอลคงคิดว่ามันจะทำให้เขาสะดุ้งสะเทือน หรือมัดมือชกเขาเวลาที่เรามีปากเสียงกันได้ อย่างครั้งนี้มันก็คงหลุดออกมาเพราะทั้งคู่มีปากเสียงกันเรื่องที่มีนักธุรกิจหนุ่มมาเกี่ยวข้องกับจงอิน ซึ่งแน่นอน ชานยอลรู้ว่าแม่พยายามจะจับคู่เขากับจางอี้ชิงนักธุรกิจหนุ่มนอกคนนั้น

 

                 คราวนี้แรงกว่าครั้งก่อนๆ นิดหน่อยตรงที่มันเกือบจะเห็นชานยอลในคลิปด้วย แต่จงอินคิดว่าไม่น่าเกินมือคนของแม่ที่จะจัดการเก็บข่าวนี้ให้เงียบเรียบร้อย

 

                จงอินถอนหายใจหนักหน่วงก่อนจะลุกกลับไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของตัวเอง มือหนาลูบไปตามแผ่นกระจกบนโต๊ะไม้สักที่เพิ่งเป็นที่รองรับแรงอารมณ์ของเขากับชานยอลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ด้วยแววตาครุ่นคิด

 

                ใจจริงแล้วจงอินไม่ได้กลัวแม่จะรู้เรื่องนี้อย่างที่ชานยอลคิดหรอก ถึงเขาจะเชื่อฟังแม่แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขารักและเห็นใจผู้หญิงที่ให้เขาเกิดขึ้นมาเพื่อผูกมัดเงินทองและสมบัติของพ่อไว้กับตัวขนาดนั้น

 

                จงอินไม่มีอะไรจะเสียและออกจะยินดีอย่างยิ่งเลยด้วยซ้ำถ้าชานยอลจะส่งมันให้แม่เขาดูตรงๆ

 

                เขาจะได้เลิกใช้ผู้ชายร่วมกับแม่สักที

 

 

 

               

 

 

            ถ้าคุณแพ้พนันเรื่องหน้าตาใสซื่อของปาร์คชานยอลเหมือนผมตั้งแต่ต้นล่ะก็

 

             ผมก็พนันได้เลย ว่าคุณก็จะไม่เคยเจอผู้ชายที่โง่งมงายในตัวปาร์คชานยอลแบบผมเช่นกัน

 

 

 

 

 

end*