Trigger Warning: Eating Disorders
Author’s Note: เน้นย้ำคำเตือนข้างบน ถ้ามันอาจไปกระตุ้นอะไรก็ปิดไปไม่อ่านได้ตามสะดวกนะคะ
Wil-fred
1.
1/16 ของแตงโมหนึ่งลูก (อนึ่ง แตงโมหนึ่งชิ้น ในขนาดที่เขาจะตัด) มี 87 แคลอรี โดยประมาณ
นมปกติหนึ่งถ้วยมี 148 แคลอรี โดยประมาณ
กีวี่เขียวขนาดทั่ว ๆ ไปมี 47 แคลอรี โดยประมาณ
โยเกิร์ต (smooth & creamy) หนึ่งถ้วยมี 232 แคลอรี โดยประมาณ
แผ่นพับข้อมูลทางโภชณาการของฟู้ดเชนนั้นหาได้ง่าย อย่างเช่น McChicken มี 370 แคลอรี โดยประมาณ และช็อกโกแล็ตร้อนของสตาร์บั๊คส์ (ขนาด grande, ใส่นมถั่วเหลือง, ไม่ใส่วิปครีม) มี 250 แคลอรี โดยประมาณ
BMI: 17.4 16.5… ก็ไม่เลว ยังต่ำได้กว่านี้อีก
แคลอรีที่สามารถทานนอกแผนได้ต่อสัปดาห์: 500 300
ทว่า บางครั้งสัญชาตญาณการเอาตัวรอดก็จะเอาคืนอย่างร้ายกาจ จะมีบางวันที่เขายัดอะไรเข้าปากอย่างต่อเนื่อง เมื่อคำนวณดูสิ้นวันก็ได้สัก 4,664 แคลอรี เขาเกลียดวันเหล่านั้น มันเป็นวันที่คนใช้ในบ้านจะมองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจระคนกระวนกระวายว่าทำไมเขาจึงรีบร้อนกินถึงขนาดนั้น อันที่จริง เขาก็เกลียดวันที่เขาไม่กินอะไรเลยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวันที่คนอื่นสังเกตหรือไม่สังเกตเห็นก็ตาม
เมื่อคุณเป็นคนทำอาหาร และทำได้ดี คนอื่นจะมีแนวโน้มในการมองข้ามเรื่องที่คุณไม่ได้กินอะไรต่อหน้าพวกเขา และเชื่อโดยง่ายว่าคุณได้ “กินอะไรในครัวไปเรียบร้อยแล้ว” เคล็ดลับอย่างหนึ่งก็คือ อย่าให้พวกเขาเห็นไหปลาร้ากับท่อนแขนด้านบนของคุณ ด้วยเหตุนี้วิลเฟรดจึงเกลียดหน้าร้อน และเป็นฤดูที่เขาออกจากห้องน้อยเป็นพิเศษ อย่างน้อยมันก็เลี่ยงไม่ให้คนทักขึ้นมาว่า “ทำไมถึงใส่เสื้อแขนยาว ร้อนออก” กระนั้นช่วง BMI 16.4… 16.3… 16.2… ก็ยังพอทำให้ไม่มีใครสังเกตได้ นาน ๆ ครั้งพี่สาวอาจจะทักขึ้นมาว่า “พี่จำไม่ได้แล้วว่าเห็นนายกินข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อไร” นั่นเป็นจังหวะที่ลำบาก และเมื่อเธอคะยั้นคะยอให้เขากินอาหารต่อหน้าเธอ เขาก็ต้องทำตาม แล้วค่อยขอตัวไปเข้าห้องน้ำในภายหลัง
วิลเฟรดเพิ่งได้ลองไว้ผมยาวในช่วงไม่กี่ปีให้หลังเท่านั้น ด้วยก่อนหน้านั้น—ระหว่างขั้นตอนการอาเจียน—ผมทรงสั้นไปเป็นเรื่องสะดวก การพกแปรงสีฟันและยาสีฟันเล็ก ๆ ไว้กับตัวก็เป็นสิ่งจำเป็น เขารู้ดีว่าหากอาเจียนผิดวิธีสักครั้ง เขาตายได้ และเขารู้ว่าการกินเยอะจนกระเพาะฉีกจริง ๆ ก็เป็นไปได้เหมือนกัน
ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่น้ำหนัก ไม่ได้อยู่ที่ความสวยงาม ความพยายามที่จะอดตายเพื่อหวนกลับไปขนาดตัวของเด็กหนุ่มนั้นไม่ได้ฝังอยู่ในความทระนงเรื่องความงาม มันไม่มีความสุนทรีย์ มันไม่ใช่การลดน้ำหนักขั้นรุนแรงเพื่อให้ดูดีชั่วครั้งชั่วคราว สำหรับวิลเฟรดแล้ว มันอยู่ที่ความควบคุมกับความกลัว และเป็นความควบคุมกับความกลัวที่เขาเคยต่อสู้เพื่อมัน
เขาเคยกลับมาจากการบำบัดระยะยาว แล้วพบว่าที่บ้านไม่มีที่ชั่งน้ำหนักสักตัว
มันคือ... สัมผัสแห่งความไม่รู้ ซึ่งหากเรียนรู้ที่จะอยู่กับสัมผัสนั้นได้ เขาก็อาจจะไม่ตาย แค่นั้น
_
สิ่งที่สูญเสียไป ก็มีพอสมควร
เขาเคยแขนหัก
กระดูกไม่แข็งแรง
ผิวแห้ง หน้ามืด เล็บเปราะ ผมร่วง ฟันผุ – ทั้งจากการขาดสารอาหาร และจากกรดกระเพาะ
ผอมกระทั่งเพียงแค่นอนลงก็รู้สึกเจ็บ แต่ไม่อยากกินยาแก้ปวด เพราะมันคือการกิน
_
แต่แล้ว เมื่อได้กลับมาที่ BMI 22.1 ด้วยความสูง 188 ซม. ว่ากันตามตรงก็สูงจนน่ารังเกียจ เขาแน่ใจว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้กินน้อยลงน่าจะเกี่ยวเนื่องกับความสูงที่เพิ่มขึ้น ขนาดตัวที่ขยายใหญ่ขึ้น ความ... ไม่พร้อม... รับมือกับตัวเองที่สูงขึ้น ทำให้เลือกที่จะจำกัดวิธีกินของตัวเอง จำกัดขนาดของตัวเอง หรืออะไรเทือกนั้น—คนอื่นบอกว่ามันเป็นเพียงความคิดของคนป่วย ซึ่งก็ได้ เขายอมรับ ว่าเขาเคยป่วย อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันคงไม่สำคัญสักเท่าไรนัก ไม่สำคัญเมื่ออยู่ในจุดของ BMI 22.1 อยู่ในระดับสุขภาพปกติดีอย่างที่คนเขาว่ากัน ในระดับที่หากเขามี EDNOS (Eating Disorder Not Otherwise Specified) คนอื่นก็สามารถมองข้ามไปโดยง่าย เพราะน้ำหนักปกติ ทำให้คนคิดว่าเขาไม่ได้สร้างระเบียบการกินของตนอีกต่อไปแล้ว... แต่เขาก็ไม่ได้มี EDNOS... ใช่ไหมล่ะ ปิศาจเหล่านั้นไม่ได้ครอบงำเขาอีกต่อไปแล้ว เพียงแค่หลอกหลอนบ้าง แค่นั้น ความรู้สึกผิดหลังได้กินอะไรสักอย่างก็ไม่มีอยู่แล้ว คงเหลือเพียง... ความรู้สึกไม่ชอบ เมื่อเห็นอาหารปะปนกันแบบแปลก ๆ หรืออยู่ผิดที่ผิดทาง
เช่นเฟรนช์ฟรายส์หกร่วงกราวบนพื้น
_
ตอนที่ออกจากบ้านมาเล่นเกมทดสอบความกล้านี่ เขาไม่ได้ตั้งใจจะกลับบ้านอยู่แล้ว
คริสต์มาสปีนี้ไม่มีเอ้กน็อกที่เขาทำเอง แต่ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น ‘ข้างนอก’ ก็มีหิมะตก
ก็ดี
“บายนะ”