วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างวุ่นวายแต่เช้า....
อลอนโซ่ได้รับโทรศัพท์ให้เดินทางไปยังโบสถ์อีกแห่งหนึ่งภายในเวลาครึ่งชม. เพราะคนเล่นดนตรีของที่นั่นทรุดเข้าโรงพยาบาลกระทันหันอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ทำให้เขาต้องไปทำหน้าที่แทน...
มือหยิบสะพายกระเป๋ากีตาร์ขึ้นไหล่ ก้าวเดินออกมาจากโบสถ์ก่อนมองซ้ายมองขวาเพื่อที่จะข้ามถนนไปขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อที่จะเดินทางไปยังโบสถ์เซนท์เลอรุยร์...
เมื่อเห็นว่ารถโล่งดีแล้ว ขาที่กำลังจะก้าวออกไปก็ต้องชะงักเมื่อหางตาเห็นรถมอไซด์แล่นมาด้วยความเร็วสูง เขาก้าวถอยด้วยสัญชาติญาณแต่ไม่เร็วพอที่จะหลบพ้นทั้งตัว ทำให้แขนขวาถูกกระแทกด้วยกระจกข้างของพาหนะอย่างแรง...
แต่คนขับก็ไม่ได้หันมามองเขาเลยแม้แต่นิดเดียวจึงเอาความอะไรไม่ได้ อลอนโซ่เลิกแขนเสื้อขึ้นดูแล้วขยับแขนสองสามครั้ง ก็รู้สึกว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ารอยช้ำปืดใหญ่...
ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเช็คดูอีกครั้งให้แน่ใจว่าไม่มีพวกบ้าเมายาหรืออะไรก็ตามขับรถมาชนเฉี่ยวตนอีกก็เดินข้ามถนนเข้าสู้สถานทีของรถไฟใต้ดิน...
เขาจ่ายตั๋ว เลือกจุดหมายปลายทาง และไปยืนรอที่ชานชลาอย่างปกติ.. เขาสำรวจมองรอบๆตามนิสัยเดิมที่คอยสังเกตุการณ์อย่างไม่รู้ตัวจนได้ยินเสียงซุบซิบของวัยรุ่นคู่หนึ่งที่ต่อแถวอยู่ข้างหลัง
"แก ในทวิตเตอร์มีคนรีอุบัติเหตุใกล้ๆกับโรงพยาบาลเซนท์เลอรุยร์ใหญ่เลย" ....นั่นทำให้เขาต้องสนใจฟังเพราะมันเป็นที่ๆเดียวกันกับที่เขากำลังจะไป
"เฮ่ย แกว่าฉากมันคุ้นๆมะ มันเหมือนในหนังเลยนะว่าไหม อาจจะเป็นกองถ่ายแล้วปลุกกระแสก็ได้นะ" ..........นั่นสิ..เชื่อยากทีเดียว...
ในที่สุดรถไฟก็เข้าเทียบชานชลา เขาก้าวเดินขึ้นไปบนรถและเลือกที่จะยืนริมประตู ด้วยของที่เขานำมาด้วยคงไม่สะดวกที่จะไปยืนตรงกลางโบกี้เท่าไหร่....
เมื่อผ่านไปได้ซักสองหรือสามสถานี...ก็มีเด็กคนหนึ่งถือไม้เบสบอลเปื้อนรอยสีแดงเดินผ่านหน้าเขาไปยืนตรงข้ามกับเขา แถมหันไปมองคนรอบๆด้วยสายตาขวางๆและไม่เป็นมิตรซักเท่าไหร่..แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปถามอะไร...
วัยรุ่นคู่เดิมเริ่มคุยเสียงดังขึ้น...เรื่องข่าวอุบัติเหตุ แถวยังเปิดทีวีออนไลน์ผ่านไอโฟมอีกด้วย...
"ขณะนี่ได้เกิดเหตุวุ่นวายบนท้องถนน จากปากคำของคนที่วิ่งออกมาจกาโรงพยาบาลเซนท์เลอรุยร์ ได้บอกกับทางเราว่า ศพลุกขึ้นมาแล้วไล่กัดประชาชนครับ! นั่นครับคุณผู้ชม มีกลุ่มคนวิ่งมาทางนี้ด้วยความบ้าคลั่ง..เหวออออ เฮ้ยย วิ่งเร็ว!! อ๊าก!!! มันกัดฉัน ช่วย-------" ..............
ในโบกี้รถไฟเงียบกริบ.........
และมีคนทำลายความเงียบด้วยผู้ชายคนหนึ่งที่ลุกขึ้นยืนแล้วล้มชักลงกลางโบกี้.... เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามเขากระชับไม้เบสบอลในมือก่อนฟาดเข้าที่หัวชายที่ลงไปชักอย่างแรงเลือดสาดกระเด็นเต็มพื้นและเปื้อนบริเวณรอบๆ.. "ไอ้นี่แหละ...ที่อยู่ในข่าว" เสียงของเด็กหนุ่มฟังดูเหนื่อย และอยู่ๆหญิงชราที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆที่เขาพิงก็ลุกขึ้นมาพุ่งหาเขาอย่างแรง
!
อลอนโซ่ป้องกันตัวเองด้วยสัญชาติญาณ...เขาจับเหวี่ยงหญิงชราเข้ากับประตูรถไฟทันที และล็อคกดคอไว้แน่น เล็บมือของเธอจิกเข้ากับกระจกประตูแล้วขูดดิ้นไปมาราวกับเป็นบ้า...
เขามุ่นคิ้วด้วยแรงที่ต่อต้านออกมานั้น ไม่ใช่แรงที่สตรีอายุเท่านี้ควรจะมี เสียงของเด็กหนุ่มคนเดิมดังขึ้น
"ฆ่าเธอ ก่อนที่เธอจะกัดคุณ!"
ชายหนุ่มมองตาที่เหลือกมาทางเขา..มันไม่ใช่ตาของมนุษย์อีกต่อไป.....จึงได้บิดกระดูกคอของหญิงชราดังกร๊อบ...และร่างนั้นก็ทรุดลงในที่สุด... ทุกคนต่างอยู่ในความเงียบ กรีดร้อง โวยวาย หวาดกลัว ..มองรอบๆว่าจะมีใครเกิดอาการลมชักขึ้นมาอีกหรือไม่..
และยังไม่ทันจะได้คิดจะทำอะไรต่อ รถไฟก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่างอย่างรุนแรง..
อลอนโซ่ที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจะยึดจับอะไรก็กระเด็นตามแรงกระแทกศรีษะฟาดเข้ากับเสากลางโบกี้อย่างจัง...
ตอนนี้เขาเห็นภาพเป็นสีแดง..ร่างทรุดอยู่ที่พื้น..เขาพยายามจะลุกขึ้นแต่ในหัวอื้ออึง... รู้สึกตัวลางๆว่ามีใครพาเขาออกจากโบกี้รถไฟ....จากนั้น..เขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
Mission - Complete
HP -2 :8/10