JustPaste.it

ในวันทานาบาตะ...ผมได้รับข่าวดีจากคุณหมอว่า ผมจะได้ออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้...จะบอกว่าดีใจรึเสียใจดีล่ะ...

 

เพื่อเป็นการอวยพรให้กับตัวเอง ผมเลยถือโอกาสเขียนคำขอพรลงบนกระดาษและฝากให้คุณพยาบาลเอามันไปผูกไว้ที่ร้นไผ่ของโรงพยาบาล

 

ผมเขียนมันลงไปว่า "ขอให้เจอใครซักคนเข้ามาในชีวิต" เขียนไปอย่างไม่คิดอะไรว่าใครจะต้องการผม ผมแค่รู้สึกเหงา อยากมีคนอยู่ข้างๆเวลารู้สึกแย่

 

ถึงมันจะเป็นประเพณีของฝั่งตะวันออก แต่คนตะวันตกอย่างผมคิดว่ามันเป็นประเพณีที่น่ารักมากเลยล่ะ ดูท่าโรงพยาบาลนี้เองก็มีคนทำด้วย

 

ผมเลยถือโอกาสนี้เขียนคำขอพรให้ตัวเองบ้าง อย่างน้อยเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังใจให้ตัวเองขึ้นมาบ้างก็ดี แม้จะรู้ดีว่าเป็นไปด้ยากมากที่จะเป็นจริง

 

วันต่อมา ผมจัดการเก็บของของตัวเองเตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล ไม่มีใครมารับผมกลับหรอกครับ ผมต้องพึ่งตัวเอง ก็ผมเป็นสายลับรหัส00แล้วนี่นา

 

ไม่มีใครสามารถมารับผมกลับได้ หลายคนติดภารกิจ แต่อย่างน้อยๆก่อนหน้านี้คุณวาเอร์ก็เอาเสื้อมาให้ผมแล้วตอนที่มาเยี่ยมผมเพียงเวลาสั้นๆในคราวก่อน

 

ผมกลับมาที่คอนโดได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล ผมกล่าวทักทายตุ๊กตาหมีทั้งหลายด้วยความคิดถึง ราวกับพวกมันมีชีวิตจริงๆ ผมคิดเสมอว่ามันมีชีวิตสำหรับผม

 

หลังจากทักทายตุ๊กตาหมีตัวน้อยทั้งหลายเรียบร้อย ผมเริ่มเขียนรายงานภารกิจให้คุณเอ็ม ผลของภารกิจดูไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย...ผมพลาด

 

ผมคิดว่าผมควรจะทำอะไรไถ่โทษคุณเอ็ม...ข้างกล่่องดีมั๊ยนะ?? อยากทำมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาศซักที...

 

เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะทำข้าวกล่องไปให้คุณเอ็มดีกว่า...

 

.

.

.

.

.

 

วันรุ่งขึ้น...

 

"ดิ้งด่องงงงงง ดิ้งด่องงงงงง" 

 

"ครับ?" เสียงออดหน้าห้องผมดังขึ้น ผมกำลังทำข้าวกล่องให้คุณเอ็มเลย วันนี้ผมคิดว่าจะไปเข้าตึกMIEซักหน่อย...แต่ดูท่าจะผิดคาดนะที่มีคนมาเยี่ยมผมแบบนี้...

 

ไม่เคยมีใครมาหาผมถึงห้องเลย มีน้อยคนนักที่จะมาหาผม...

 

ผมเดินไปเปิดประตูต้อนรับแขกตามมารยาท ในใจคิดว่าคงเป็นคุณโจนส์ไม่ก็คุณวาเอร์...

 

แต่สิ่งที่เห็นกลับผิดคาด...

 

 

ผมเห็นคุณอเล็กซิสมาที่หน้าห้องของผมพร้อมของฝาก...ดูท่าเธอจะตกใจนิดๆที่เห็นผมนะ...

 

เหมือนเธอจะดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม??

 

เธอเป็นเอเจนท์ฝึกหัดในสังกัดของคุณอีวาน 005...แต่เธอกับผมก็ได้คุยกันบ่อยๆเพราะเราสองคนมีบ้านอยู่เขตโซนเดียวกัน

 

ผมอยู่แคนาดา เธออยู่อเมริกา และยังมีอะไรหลายๆอย่างที่ผมกับเธอคุยกันได้อย่างถูกคอ...

 

 

"เอ่อ!!! ฉ่ะ...ฉันของฝากมาเยี่ยมค่ะ"...เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ปรกติเธอเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองเสมอนี่นา...

 

"ขอบคุณมากเลยครับ เข้ามาพักก่อนก็ได้ เดินทางมาคงเหนื่อย" ผมยิ้มให้เธอเฉกเช่นทุกครั้ง...ก่อนที่จะเชิญให้เธอเข้ามาในห้อง

 

"อ่๊ะ ขอบคุณค่ะ รบกวนหน่อยนะคะ" เธอก้าวเข้ามาด้วยท่าทีเคอะเขินผิดปรกติ...แลดูจะไม่มีความมั่นใจมากเท่าเมื่อก่อนยังไงไม่รู้ จนสุดท้ายล้มคะมอมลงไปกับพื้น

 

"คุณอเล็กซิส!! เป็นอะไรรึเปล่าครับ!!?" ผมค่อยๆก้มลงหมายจะช่วยพยุงเธอ ผมลืมไปเลยว่าตัวผมเองก็ยังเป็นผู้ป่วยอยู่แท้ๆ...

 

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนี่แย่จังต้องให้คนป่วยมาช่วย"

 

" ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ผมเป็นเจ้าบ้านนี่นา"

 

เธอยิ้มให้ผมด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ...

 

เธอกำลังเขินเหรอ?...แต่ผมก็ไม่ใส่ใจมากนัก ผมคิดว่ามันคงเป็นธรรมชาติของผู้หญิงล่ะมั้ง...

 

"ขอบคุณนะคะ วันนี้ฉันเอาเอิร์ลเกรย์ให้ค่ะ..." ทันทีที่เธอมาถึงโซฟารับแขกในห้องของผม เธอก็ยื่นของฝากที่เธอนำมาให้ทันที

 

"โอวววว ชาเอิร์ลเกรย์ ของดีซะด้วย ขอบคุณมากๆครับ"

 

ผมยิ้มเป็นเชิงขอบคุณให้เธอ ก่อนที่จะลองเอาไปชงดื่มรับแขกทันที...ผมชอบดื่มชามากเลยล่ะ...

 

 

 

"ยินดีค่ะ เอ่อ...คือว่าความจริงที่ฉันมาวันนี้น่ะฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ.."

 

 

 

ผมหันไปหาเธอ เธอก้มหน้างุดแบบนั้นทำไมน่ะ?

 

 

"หืม? มีเรื่องอะไรเหรอครับ?"

 

 

"คือว่า...ฉัน...ฉัน...จะถามว่าหมีตัวนั้นซื้อที่ไหนหรอคะ!?!" เธอตอบก่อนที่จะชี้ไปที่ตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งที่อยู่บนโซฟาของผม

 

 

"อ้อ ตัวนั้นผมซื้อมาจากร้านแถวๆย่านพิคาเดลี่น่ะครับ เห็นหน้าตามันน่ารักดีแถมราคาก็ไม่แพงด้วย เลยซื้อมา" 

 

"ง่ะ..งั้นน่ารักน่ารักจังOAQ ท่ะ...ที่จริงฉันจะบอกคุณอีกเรื่องน่ะค่ะ..."

 

"เรื่องอะไรเหรอครับ??"

 

 

 

ผมยิ้มก่อนที่จะเดินไปหาพร้อมกับชาเอิร์ลเกร์ยสองถ้วยสำหรับเราสองคน และยื่นถ้วยชาให้เธอ

 

"ฉัน...ชอบ..." ทันทีที่เธอรับถ้วยชาจากผม เธอก็ก้มหน้างุด...

 

"ชอบตุ๊กตาหมีของผมเหรอ?" ผมยิ้มให้เธอ ผมคิดว่าเธอคงอยากได้ตุ๊กตาหมีของผมรึเปล่านะ? ก็เป็นผู้หญิงนี่นา

 

จริงอยู่ที่ผมรักตุ๊กตาหมีของผมมาก แต่ถ้ากับคนที่ผมสนิทด้วยอย่างเธอ ผมอาจจะยอมมอบให้เธอซักตัว

 

และเธอคงไม่กล้าขอผมด้วยตัวเอง...เธอถึงได้มีท่าทีแบบนั้นรึเปล่า?

 

ผมหยิบตุ๊กตาหมีบนโซฟาของผมขึ้นมากอด

 

"ถ้าอยากได้ผมยกให้ตัวนึงนะ" 

 

ผมยินดีให้เธอจริงๆนะ...

 

"ค่า ชอบมากเลยค่า..." เธอหยิบตุ๊กตาหมีที่อยู่ข้างๆเธอมากอดบ้าง...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"แต่ที่ฉันจะบอกคือฉัน...ชอบ..คุณฌอนค่ะ... "

 

 

 

 

 

 

!?

 

 

"คะๆ...คุณพูดว่าอะไรนะครับ.." ใบหน้าของผมร้อนผ่าว...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมเองก็กำลังเขินมากๆ ทั้งเขิน ทั้งงุนงง ทั้งตกใจระคนยินดีอยู่ลึกๆ...

 

ผมไม่เชื่อหูตัวเองเลย...จริงๆนะ...

 

 

"ฉันบอกว่าฉันชอบคุณค่ะ...." 

 

เธอเองก็ดูท่าจะเขินยิ่งกว่าเดิม...

 

ผมเข้าใจในบัดนั้นเองว่าที่เธอมีอาการแปลกๆแบบนี้เพราะอย่างนี้นี่เอง...

 

 

เธออยากจะเข้ามาสารภาพรักกับผม...

 

 

ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะดีพอให้มีคนรัก...

 

ขนาดภรรยาของตัวเองยังไม่มีปัญญาปกป้อง...

 

"ชะๆ...ชอบผมงั้นเหรอ?...นี่พูดจริงรึเล่นครับเนี่ย?"

 

"พ่ะ...พูดจริงสิคะ.." 

 

เธอกับผมในตอนนี้อยู่ในสถานะเขินอายกันทั้งคู่...

 

 

"คะๆ...คือว่าผม ผมไม่คิดว่าคนอย่างผมจะมีคนมาชอบน่ะ...." ผมกล่าวด้วยท่าทีตะกุกตะกักไม่แพ้เธอ...

 

 

"ผมเป็นพ่อหม้ายนะ คุณยังเด็ก อาจจะเจอคนที่ดีกว่าก็ได้"

 

ใช่...ผมคิดแบบนั้นจริงๆ...

 

ผมเป็นพ่อหม้ายที่จมปลักอยู่กับอดีต...ใช้ชีวิตเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ตายซากไร้วิญญาณ

 

มีตุ๊กตาหมีเป็นสิ่งที่จะอุดช่างว่างที่เปล่าเปลี่ยวในหัวใจ

 

ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก เพราะหวาดกลัว...

 

กลัวจะต้องเสียใจอีก...

 

ดูยังไงก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูมีเสน่ห์มากพอที่จะให้ใครมารักหรือหลงไหลผมง่ายๆหรอก...

 

 

"นั่นสินะคะ...ฉันคงไม่ดีพอที่จะคู่ควรกับคุณ ขอบคุณที่ปถิเสธอย่างนุ่มนวลค่ะ"

 

 

ไม่...คุณกำลังเข้าใจผมผิด...

 

 

"มะๆ ไม่ใช่นะครับ...แต่คือผม...ผมรู้สึกดีใจที่มีคนชอบผม"

 

 

ผมไม่เคยคิดว่าคุณไม่ดีพอสำหรับผมเลยแม้แต่น้อย...

 

 

"แต่ผม...แค่รู้สึกว่าอาจจะไม่ดีพอที่จะดูแลคุณได้น่ะครับ..."

 

 

แม้แต่ภรรยายังดูแลไม่ได้...ผมคงไม่กล้าเสนอหน้าไปรักใครได้อีกแล้วล่ะ...

 

แม้จะเจ็บปวด ที่เห็นคนอื่นๆอยู่กับคนที่เขารักในขณะที่ผมต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพัง...

 

แม้ในใจจะปรารถนาให้มีใครซักคนเข้ามา...

 

แต่ผมก็กลัวอยู่ดี...

 

 

 

 

"ขอฉันเป็นคนดูแลคุณแทนได้มั้ยคะ.... "

 

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาหาผมด้วยท่าทางที่จริงจัง แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงแดงระเรื่อ...

 

 

หัวใจของผมเต้นระรัว...

 

ผมรู้สึกได้ว่าตัวผมในตอนนี้เหมือนเป็นสาวน้อยที่ถูกสารภาพรักเสียมากกว่า...

 

ผมปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก...

 

ผมไม่กล้าพอที่จะเปิดใจให้ใคร...

 

เพราะกลัวเจ็บ...

 

หัวใจของผมมันเต็มไปด้วยบาดแผลลึก แม้ในใจลึกๆก็ยังแอบต้องการคนมาดูแล...

 

 

 

แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเริ่มต้นผูกสัมพันธ์กับใคร...

 

 

แต่เธอ...คุณอเล็กซิส...

 

ผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่ตรงหน้าผม...

 

เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาหาผม...

 

และเอ่ยปากขอดูแลผม...

 

 

 

"ผมนี่มัน...เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ..."

 

 

ใช่...ผมมันอ่อนแอ...

 

 

"...เป็นระดับ00ยังโดนผู้หญิงตัวเล็กๆมาปกป้องแบบนี้...น่าอายจัง..."

 

 

ผมควรเป็นฝ่ายดูแลเธอสิ...ไม่ใช่เธอที่จะมาดูแลผมแบบนี้...

 

 

 

 

 

"แต่ก็เพราะมุมนี้ของคุณไงคะที่ฉันชอบ..." 

 

 

 

เธอเข้ามานั่งข้างๆผม...และกล่าวอย่างอ่อนโยน...

 

เธอค่อยๆโอบกอดผม...อบอุ่นเหลือเกิน...

 

ไม่อยากให้เธอละอ้อมแขนออกไปเลย...

 

 

 

 

"ขออยู่อย่างนี้ซักพักนะคะ..."

 

 

 

 

ขอบตาของผมร้อนผ่าว...ไม่ทันไร หยาดน้ำใสๆก็หลั่งออกจากดวงตาของผมจนได้...

 

 

"ขอบคุณครับ...ฮึก..."

 

 

ผมไม่ิคิดจะปฏิเสทอ้อมแขนเล็กๆนี้ของเธอหรอก...

 

ผมค่อยๆหันไปกอดเธอกลับไป...

 

 

"ผมเองก็...อยากกอดใครซักคนแบบนี้มานานแล้วล่ะ..."

 

 

 

ผมโหยหาไออุ่นแบบนี้...มานานแล้ว...

 

 

 

 

 

 

"อย่าร้องไห้สิคะ..."

 

มือเล็กๆของเธอเอื้อมขึ้นมาปาดน้ำตาของผมอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา...

 

"ต่อจากนี้...คุณจะเปิดใจให้ฉันได้มั๊ยคะ? ฉันขอโอกาศ...ได้ดูแลคุณ...ได้มั๊ย?"

 

เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมอีกครั้ง...ครั้งนี้แฝงไปด้วยความแน่วแน่...ความเขินอายเริ่มจางลง...

 

 

ผมมองเธอด้วยสีหน้ายินดี...

 

ผมค่อยๆยิ้มให้เธอ...

 

และกอดเธอแนบแน่นในอ้อมแขนของตัวเอง...

 

 

 

"ครับ...ต่อจากนี้ไป...ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ..."

 

 

ผมกล่าวพร้อมกับหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติยินดีระคนตื้นตันใจ...

 

 

"เช่นกันค่ะ...คุณฌอน..."

 

 

 

 

 

 

 

 

คำขอพรในวันทานาบาตะของผมเป็นจริงแล้ว...

 

END.